กรมประมง...จับมือภาคเอกชน จัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กลุ่มประมงพื้นบ้านสามร้อยยอด
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.30 น. ณ บริเวณชายหาดสามร้อยยอด ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมประมง ร่วมกับชุมชนชาวประมง รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ภายใต้ชมรม CSR เพื่อการท่องเที่ยวตำบลสามร้อยยอด จัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล ภายใต้โครงการ “รักษ์ทะเลสามร้อยยอด” โดยร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวนกว่าหนึ่งล้านตัว คืนสู่ธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูคืนสมดุลสู่ระบบนิเวศท้องทะเลไทย
นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากการเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจจากปัจจัยภายในประเทศ และปัจจัยภายนอกประเทศ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่เกิดจากหลายสาเหตุ ส่งผลให้ในทุกมิติในภาคการทำการประมงได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเฉพาะด้านการสร้างรายได้จากอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงที่ลดลง ผันแปรตามปริมาณสัตว์น้ำ และระบบนิเวศที่มีปริมาณสัตว์น้ำไม่เพียงพอต่อแนวโน้มการบริโภคที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอาหารทะเล เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสชาติดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการนี้ กลุ่มประมงพื้นบ้านตำบลสามร้อยยอด ซึ่งเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมประมง ร่วมกับชุมชนชาวประมง รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ภายใต้ชมรม CSR เพื่อการท่องเที่ยวตำบลสามร้อยยอด จึงได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล ภายใต้ชื่อโครงการ “รักษ์ทะเลสามร้อยยอด” โดยปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1,050,020 ตัว ประกอบด้วย พันธุ์ปลานวลจันทร์ทะเล 50,000 ตัว ลูกพันธุ์ปูม้า 1,000,000 ตัว และแม่พันธุ์ปูม้า (มีไข่นอกกระดอง) 20 ตัว เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีมีกิจกรรมการวางซั้งกอ จำนวน 30 ต้น เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในพื้นที่หาดสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมง และสร้างรายได้ให้กับชาวประมงในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลให้มีศักยภาพด้านประมง ทั้งในมิติความหลากหลาย และปริมาณสัตว์น้ำ ให้มีปริมาณเพียงพอสอดคล้องกับความต้องการบริโภคสัตว์น้ำของประชาชนอย่างยั่งยืน และให้อาชีพชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้น ในรูปแบบการนำผลผลิตสัตว์น้ำที่จับมาได้เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในแหล่งชุมชนประมงพื้นบ้านต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น: